วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ขนมสัมปันนี...ขนมแห่งความคิดถึง

ขนมสัมปันนี...ขนมแห่งความคิดถึง

ขนมสัมปันนี...ขนมแห่งความคิดถึง
เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า ในสมัยพระนารายณ์ มหาราช นั้น มีหญิงชาว โปรตุเกส ผู้หนึ่ง ที่มีบทบาทในเรื่องของ การทำขนมไทยเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ท้าวทองกีบม้า ภรรยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ที่ได้รับการยกย่อง ให้เป็นราชินีแห่งขนมไทย ท่านได้สร้างสรรค์ผลงานมากมายทิ้งไว้ให้แก่ชนรุ่นหลัง ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีเมนู ขนมไทยโบราณ นามว่า ขนมสัมปันนี รวมอยู่ด้วย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนมไทยไม่ให้หายไป พวกเราไปทำความรู้จักกับ ขนมสัมปันนี ด้วยกันนะ
ขนมสัมปันนี หรือ ขนมสัมปะนี เป็นขนมที่ทำจาก แป้งมันคั่ว แล้วนวดผสมกับน้ำกะทิ และ น้ำตาลทราย เนื้อขนมจะจะละลายในปากมีรสหวานและ หอมกลิ่นควันเทียนอบขนม กรอบนอกนุ่มใน รูปร่างคล้ายดอกไม้มีสีสันสวยงาม ปัจจุบันมี ขนมสัมปันนีมี 2 แบบ คือแบบแห้งและแบบเปียก แบบแห้งจะใช้แป้งมันสำปะหลัง นำไปคั่วให้สุกก่อนนำมาทำขนม ส่วนแบบเปียก จะใช้แป้งข้าวเจ้าที่ไม่ต้องคั่ว
ขนมสัมปันนี ถือได้ว่าเป็นขนมที่มีประวัติอันยาวนาน และ เป็นขนมมงคล นิยมใช้ในพิธีแต่งงาน ต้นกำเนิดมาพร้อมกับขนมตระกูลทองทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ตั้งแต่สมัย อยุธยา ในรัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช ในปี 2662 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของต้นกำเนิดขนมสัมปันนี ได้ปรากฏในบันทึกของ อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน ชาวตะวันตกอีกผู้หนึ่งที่บันทึกการเดินทางเกี่ยวกับเรื่องของ ท้าวทองกีบม้า ว่า
“ข้าพเจ้าได้เห็นท่านผู้หญิงของฟอลคอนในปี พ.ศ.2262 เวลานี้ท่านได้รับเกียรติเป็นต้นห้องเครื่องหวานของพระเจ้าแผ่นดิน ท่านเกิดในกรุงสยามในตระกุลอันมีเกียรติ และในเวลานั้นท่านเป็นที่ยกย่องนับถือแก่คนทั่วไป...
ท่านท้าวทองกีบม้าผู้นี้ เป็นต้นการสั่งสอนให้ชาวสยามทำของหวาน คือ ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมผิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกง เป็นต้นเหตุเดิมที่ท้าวทองกีบม้าทำและสอนให้ชาวสยาม ”
จะเห็นได้จากในข้อความนี้ ว่ามีชื่อของ ขนมสัมปันนี อยู่ด้วย นอกจากนี้ ขนมสัมปันนี ยังมีความหมายว่า “อันเป็นที่รัก” อีกด้วย เพราะผู้ที่ทานเข้าไป จะรู้สึกถึงกลิ่นหอม และ ความหวาน ที่ละลาย อย่างช้าๆภายในปาก แสดงถึงความคิดรัก ความคิดถึง และ ห่วงใย สมัยก่อน ฝ่ายผู้หญิง จะทำอาไว้ให้แก่ฝ่ายชาย ยามที่ต้องออกไปรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง เอาไว้กินระหว่างทาง ให้หายคิดถึง





ที่มา : fifa6886


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น